E-Commerce
Electronic Business : ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์
คือ กระบวนการดำเนินธุรกิจโดยอาศัยเทคโนโลยีเครือข่ายที่เรียกว่า "องค์การเครือข่ายร่วม" (Internetworked Network) ไม่ว่าจะเป็นการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์(Electronic Commerce) การติดต่อสื่อสารและการทำงานร่วมกัน หรือแม้แต่ระบบธุรกิจภายในองค์กรElectronic Commerce : การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ในทุกช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริการ การโฆษณา ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ โทรทัศน์ วิทยุ เป็นต้น เพื่อลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กรE-Commerce Infrastructure : โครงสร้างพื้นฐาน
องค์ประกอบหลักด้านเทคโนโลยีพื้นฐาน ที่จะนำมาใช้เพื่อการพัฒนาระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่- ระบบเครือข่าย
- ช่องทางการติดต่อสื่อสาร
- การจัดรูปแบบและการเผยแพร่เนื้อหา
- การรักษาความปลอดภัย
E-Commerce Supporting : การสนับสนุน
ทำหน้าที่ช่วยเหลือและสนับสนุนช่วยของการประยุกต์ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เปรียบเสมือนเสาหลักของบ้าน มีองค์ประกอบ 5 ส่วนดังต่อไปนี้- การพัฒนาระบบงาน
- การวางแผนกลยุทธ์
- กฏหมายพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
- การจดทะเบียนโดเมนเนม
- การโปรโมทเว็บไซต์
การจัดการการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
- กลุ่มธุรกิจที่ค้ากำไร(Profits Organization)
- Business to Business (B2B)
- Business to Customer (B2C)
- Business to Business to Customer (B2B2C)
- Customer to Customer (C2C)
- Customer to Business (C2B)
- Mobile Commerce
- Intrabusiness(Organization) E-Commerce
- Business to Employee (B2E)
- Government to Citizen (G2C)
- Collaborative Commerce (C-Commerce)
- Exchange to Exchange (E2E)
- E-Leaming
E-Commerce Business Model
แบบจำลองทางธุรกิจหมายถึง วิธีการดำเนินการทางธุรกิจที่ช่วยสร้างรายได้อันจะทำให้บริษัทอยู่ต่อไปได้ นอกจากนี้ยังรวมถึงกิจกรรมที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ
ธุรกิจที่หารายได้จากค่าสมาชิก
ปัจจัยในความสำเร็จของธุรกิจที่จะสามารถหารายได้จากสมาชิกได้คือ การมีสารสนเทศหรือบริการที่มีคุณภาพที่ดีพอที่จะทำให้ลูกค้ายอมจ่ายค้าสมาชิก
ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานเป็นธุรกิจ E-commerce ที่ให้บริการแก่ธุรกิจ E-commerce อื่น ตัวอย่างของธุรกิจพื้นฐานในการศึกษา ได้แก่ Consonus(ธุรกิจศูนย์ข้อมูล และ ASP), Pay Pal(ธุรกิจชำระเงินออนไลน์), VeriSign(ธุรกิจออกใบรับรองดิจิตัล) เป็นต้น ปัจจัยในความสำเร็จของธุรกิจในกลุ่มนี้จะขึ้นอยู่กับการขยายตัวของตลาด E-commerce
ธุรกิจค้าปลีกอิเล็กทรอนิกส์
เป็นธุรกิจที่รู้จักกันดีที่สุด คนทั่วไปมักจะนึกถึงธุรกิจกลุ่มนี้ เช่น Amazon(หนังสือ), 7dream(ของชำ), Ethio Gift(ของขวัญวันเทศกาลของเอธิโอเปีย) เป็นต้น ปัจจัยสำคัญขึ้นอยู่กับความสามารถในการจัดการส่งสินค้าและบริการหลังการขายให้แก่ลูกค้า
ธุรกิจที่หารายได้จากโฆษณา
การสร้างจุดเด่นที่แตกต่างจากธุรกิจแนวเดียวกันเป็นปัจจัยในความสำเร็จของธุรกิจประเภทนี้
บริการรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์
การกำหนดมาตรฐานของข้อมูลและโปรกรมประยุกต์ของบริการต่างๆ ที่ต้องทำงานร่วมกันให้มีความสอดคล้องกัน เช่น Buyers.Gov(การจัดซื้อจัดจ้างของรัฐ)
ธุรกิจตลาดประมูลออนไลน์
ปัจจัยในความสำเร็จของธุรกิจประมูลแบบ B2C คือ ความสามารถในการหาสินค้าที่มีคุณภาพดีแต่มีต้นทุนต่ำมาประมูลขาย ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยการมีพันธมิตรรายใหญ่ที่มีสินค้าเหลือจำนวนมาก
ปัจจัยในความสำเร็จของธุรกิจประมูลแบบ C2C คือ ความสามารถในการสร้างความภักดีของลูกค้าและป้องกันการฉ้อโกงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย
ธุรกิจตลาดกลางอิเล็กทรอนิกส์
ปัจจัยในความสำเร็จคือ ความสามารถในการดึงดูดผู้ซื้อและผู้ขายจำนวนมากให้มาเข้าร่วมในตลาด ทำให้ตลาดมีสภาพคล่องมากพอ จำเป็นต้องอาศัยการมีความสัมพัพธ์ที่ดีกับกลุ่มผู้ซื้อ หรือผู้ขายแล้วแต่กรณี
ข้อแตกต่างระหว่างการทำธุรกิจทั่วไปกับการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ข้อดีและข้อเสียของ E-Commerce
ข้อดี
- สามารถเปิดดำเนินการได้ตลอด 24 ชั่วโมง
- มีอิสระในการขาย
- ต้นทุนต่ำ
- ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เช่น ค่าเดินทาง
- การดำเนินการด้านภาษียังไม่ชัดเจน
- ต้องมีระบบการรักษาความปลอดภัยของระบบที่มีประสิทธิภาพ
- ไม่สามารถเข้าถึงลูกค้าที่ไม่ได้ใช้บริการอินเทอร์เน็ต
- ขาดความเชื่อมั่นในเรื่องการชำระเงินผ่านทางบัตรเครดิต
- ขาดกฏหมายรองรับในเรื่องการดำเนินการธุรกิจขายสินค้าแบบออนไลน์